การดูแลผิวของวัยอาวุโส

 

การดูแลผิวของวัยอาวุโส

การดูแลผิวของวัยอาวุโส

ในวัยอาวุโสที่วัยทองทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อผิวมากมาย นอกจากร่างกายจะผลิตคอลลาเจนน้อยลงแล้ว ไขมันใต้ผิวก็จะลดลงเช่นกัน และเมื่อมารวมกับปัญหาผิวแห้งกร้านที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ก็สามารถทำให้ผิวของคนวัยอาวุโสหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณคอ สันกราม และแก้ม ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อนอาวุโสหลายคนจะพบว่าริ้วรอยหรือรอยเหี่ยวย่นได้เริ่มมาเยี่ยมเยือน วันนี้เราขอนำวิธีการดูแลผิวของคนในวัยอาวุโสมาฝากกัน โดยเฉพาะสำหรับคุณสาวๆ 

1. ใช้คลีนเซอร์ให้เหมาะสม
การทำความสะอาดใบหน้า ถือเป็นขั้นตอนการดูแลผิวที่สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อคุณอายุมากขึ้น ซึ่งผิวของคุณจะแห้งกว่าสมัยเป็นหนุ่มเป็นสาว ดังนั้นกุญแจสำคัญคือ การใช้คลีนเซอร์ที่เหมาะสำหรับผิวที่แห้งขึ้น โดยควรเลือกใช้คลีนเซอร์สูตรเนื้อครีม แทนสูตรที่เป็นเนื้อโฟมหรือเจล เพราะโฟมและเจลจะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว

2. เติมความชุ่มชื้น
ในช่วงวัยอาวุโสผิวของคุณจะแห้งมากขึ้น เพราะต่อมไขมันจะทำงานได้แย่กว่าเดิม ดังนั้นจึงควรเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวโดยใช้ครีมที่มีเนื้อหนักขึ้น รวมถึงหลีกเลี่ยงการอาบน้ำเป็นเวลานานหรืออาบน้ำร้อน และทาครีมมอยส์เจอไรเซอร์เมื่อผิวยังคงมีความชื้น

3. ใช้ครีมกันแดด
ถึงแม้ว่าโรคมะเร็งผิวหนังและริ้วรอย จะเกิดขึ้นจากปริมาณของแสงอาทิตย์ที่สะสมตั้งแต่ช่วงวัย 20 - 49 ปี แต่คนวัยอาวุโสก็ยังจำเป็นต้องปกป้องผิวจากแสงแดด เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการปกป้องผิวตามธรรมชาติจะน้อยกว่าตอนอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว ดังนั้นจึงควรทาครีมกันแดดทุกวัน และเลือกสูตรที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป

4. จัดการกับจุดด่างดำ
เมื่ออายุมากขึ้น จุดด่างดำที่เกิดตามใบหน้า มือ และหน้าอกจะดูชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ครีมกันแดดทุกวัน แต่หากมีจุดด่างดำเกิดขึ้นแล้ว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่ช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ผิวหมองคล้ำและตกสะเก็ด นอกจากนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสก็สามารถช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้ พร้อมกับการใช้โทนเนอร์ซึ่งคุณสมบัติช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ

5. รับประทานถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองอุดมไปด้วยสารไอโซฟลาโวน ซึ่งเป็นสารประกอบในพืชที่ทำหน้าที่เหมือนกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ทั้งนี้ไอโซฟลาโวนอาจช่วยบรรเทาปัญหาผิว และนักวิจัยเชื่อว่าการทานไอโซฟลาโวนประมาณ 50 มิลลิกรัมต่อวัน สามารถช่วยบรรเทาปัญหาอื่นๆ ที่พบในผู้หญิงวัยทองเช่นกัน

6. อย่าเครียด
ความเครียดสามารถทำให้ผิวแห้งและบอบบางมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคสะเก็ดเงิน  นอกจากนี้ถ้าคุณเครียด คุณอาจไม่มีอารมณ์ปรนนิบัติผิวหรือดูแลตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรกำจัดความเครียดให้หมดไป สำหรับวิธีที่ช่วยคลายเครียด หรือทำให้คุณสงบลงก็ได้แก่การฝึกโยคะหรือการนั่งสมาธิ

7. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยให้กล้ามเนื้อตึงตัวเท่านั้น แต่มันยังช่วยคลายเครียด ซึ่งมีผลต่อผิวตามที่เรากล่าวไป อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซึ่งจะชะลอตัวเมื่อเราอายุมากขึ้น การไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนที่มากขึ้นสามารถช่วยให้ผิวดูสดใสและดูมีสุขภาพดี

8. นอนให้เพียงพอ
การนอนให้เพียงพอสามารถช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยคล้ำใต้ดวงตา อย่างไรก็ตาม การนอนไม่เพียงพอสามารถทำให้ระดับของฮอร์โมนในร่างกายและเมทาบอลิซึมเปลี่ยนไปเช่นเดียวกับเมื่อคุณแก่ชรา ดังนั้นคุณควรนอนให้ได้วันละ 7 – 9 ชั่วโมงต่อคืน

เมื่ออายุมากขึ้น เป็นเรื่องปกติที่ผิวของเราก็จะค่อยๆ เสื่อมสภาพ จากผิวที่เคยเต่งตึง และดูเปล่งปลั่งก็จะค่อยๆ เหี่ยวย่นและแห้งกร้าน แต่เมื่อเรารู้ตัวว่าการเผชิญกับปัญหาเรื่องผิว เป็นเรื่องธรรมชาติ ทำใจยอมรับกับการเปลี่ยนแปลง แต่ขณะเดียวกันก็ดูแลรักษา เพื่อบรรเทาหรือชะลอปัญหาการเสื่อมสภาพผิว ก็จะช่วยให้เรายังคงความสดใสในช่วงวัยอาวุโสไปอีกนาน  

ที่มา: www.hd.co.th 

อ่านเรื่องสัพเพเหระอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก "เพื่อนอาวุโส"  https://www.facebook.com/seniorsfriendship