วัคซีนโควิด-19 กับผู้สูงอายุ
ตามปกติการพัฒนาวัคซีนต้องใช้เวลาในการวิจัยและทดสอบหลายปีก่อนที่จะนำไปใช้จริง แต่ในปี 2563 ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 นักวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องเร่งพัฒนาและผลิตวัคซีนโคโรนาไวรัสที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว โดยในขณะนี้มีวัคซีนโควิด-19 ที่กำลังอยู่ในระหว่างการทดลองกับมนุษย์และสัตว์ทั้งสิ้น 64 วัคซีน ในจำนวนนี้ 20 วัคซีนอยู่ในระหว่างการทดลองระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะสุดท้าย และมี 3 วัคซีนที่ผ่านการอนุมัติให้นำมาใช้จริงคือของ ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ของโมเดอร์นา และของซิโนแฟมจากจีน ส่วน วัคซีนโควิดแอสตร้าเซนเนก้าที่ไทยจอง ต้องทดสอบเพิ่ม หลังถูกกังขาเรื่องประสิทธิภาพ แต่ก็ได้มีการนำไปใช้แบบฉุกเฉิน
วัคซีนโมเดอร์นามีประสิทธิผล 94.5% เทียบกับไฟเซอร์ที่ร่วมมือกับบริษัทเยอรมนี “ไบโอเอ็นเทค” ที่ได้ประสิทธิผลกว่า 90% วัคซีนทั้งสองตัวใช้เทคโนโลยี mRNA ที่ยังไม่เคยมีในวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน วิธีนี้เป็นการฉีดพันธุกรรมโมเลกุลที่เรียกว่า mRNA เข้า ไปในร่างกาย แล้วให้ร่างกายเป็นโรงงานผลิตวัคซีนโปรตีนเพื่อกระตุ้นภูมิต้านทาน ส่วน ซิโนแฟรม ของจีนนั้นบริษัทแจ้งว่ามีอัตราประสิทธิภาพ 79.34% และได้มีการใช้ในกรณีฉุกเฉินแล้วกว่า 1 ล้านคน รวมถึงคนงานที่เดินทางไปต่างประเทศผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพและผู้สูงอายุเพื่อป้องกันการกำเริบของการแพร่เชื้อไวรัส
สำหรับเพื่อนอาวุโส คำถามที่แวบขึ้นมาคือวัคซีนโควิด-19 เหล่านี้จะมีประสิทธิผลอย่างไรกับกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งคำตอบที่ได้คงทำให้เพื่อนอาวุโสยิ้มออก
ในการทดลองวัคซีนของไฟเซอร์ และไบออนเทค มีการใช้อาสาสมัครที่มีความหลากหลาย โดย 42% ของผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งหมดเป็นคนจากหลากหลายชาติพันธุ์ และ 41% เป็นคนอายุระหว่าง 56-85 ปี ผลการทดลองบ่งชี้ว่า วัคซีนชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในคนสูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอที่สุดและเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคนี้มากที่สุดได้ดีเทียบเท่ากับคนหนุ่มสาว
ในส่วนของโมเดอร์นา ชี้แจงว่า วัคซีนของโมเดอร์นาดูจะใช้ได้ผลดีในผู้สูงอายุ โดยสามารถกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในผู้สูงอายุได้คล้ายกับในผู้เข้าร่วมทดสอบที่มีอายุน้อย จากการวิเคราะห์อาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนปริมาณ 100 ไมโครกรัม พบว่า มีการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันคล้ายคลึงกันทั้งในอาสาสมัครทั้งในกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 56 ถึง 70 ปี กลุ่มที่มีอายุมากกว่า 70 ปี และกลุ่มที่มีอายุ 18 ถึง 55 ปี โดยจนถึงขณะนี้โมเดอร์นาได้ทดสอบวัคซีนกับอาสาสมัครแล้วกว่า 13,000 คน
ด้านวัคซีนโควิด-19 “ออกซ์ฟอร์ด” ได้ผลดีกับผู้สูงอายุ ผลการทดลองเฟส 2 ของวัคซีนโควิด-19 ที่บริษัทยา แอสตราเซนเนกา ของอังกฤษ พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ชี้ให้เห็นว่าวัคซีนได้ผลดีกับอาสาสมัครสูงวัย วารสารการแพทย์เดอะ แลนเซ็ต ตีพิมพ์ผลการทดลองทางคลีนิกฉบับเต็ม ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ในการทดลองเฟส 2 มีอาสาสมัครสุขภาพแข็งแรงเข้าร่วม 560 คน แบ่งเป็นอายุ 18-55 ปี 160 คน อายุ 56-69 ปี 160 คน และอายุ 70 ปีขึ้นไป 240 คน โดยอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งได้รับวัคซีน 2 โดส และอีกกลุ่มได้รับวัคซีนหลอก ซึ่งผลการทดลอง ไม่พบว่ามีอาสาสมัครคนใดได้รับผลข้างเคียงร้ายแรง ขณะที่อาสาสมัครวัย 70 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโควิด-19 ก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้ดี โดยข้อมูลนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าวัคซีนดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพอย่างมากในการปกป้องกลุ่มเสี่ยงสูงได้ แต่ยังต้องทำการทดลองเพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป ส่วนการทดลองในเฟส 3 ซึ่งเป็นการทดสอบว่าวัคซีนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่คนในวงกว้าง รวมถึงคนที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้วได้หรือไม่
ถึงตรงนี้ เพื่อนอาวุโส คงเบาใจได้ว่าอย่างน้อยวัคซีนโควิด-19 ก็เป็นหนึ่งในโอกาสที่จะช่วยให้โลกน่าจะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง
ภาพ: www.freepik.com
---------------------------------------
อ่านเรื่องสัพเพเหระอื่นๆ ได้ที่เฟซบุ๊ก “เพื่อนอาวุโส” https://www.facebook.com/seniorsfriendship