เพื่อนอาวุโสที่อยู่ในวัย 50 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยและก้าวย่างที่สำคัญของชีวิต ด้วยความสำเร็จทางหน้าที่การงาน และการสร้างเสริมเสถียรภาพให้กับชีวิต แต่ยิ่งอายุมากขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องดูแลตัวเองให้ดีขึ้น ระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัย 50 เป็นวัยที่ต้องระมัดระวังในทุกๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับประทานอาหาร การใช้ชีวิต กิจกรรมที่ทำ วันนี้เรามีเคล็ดลับที่น่าสนใจเกี่ยวกับ สุขภาพผู้ชายวัย 50 ว่าต้องดูแลตัวเองอย่างไร ให้แข็งแรงและสุขภาพดี
เมื่อชีวิตเข้าสู่ช่วงอายุ 50 ปีแล้วจำเป็นที่จะต้องดูแลตัวเองเป็นอย่างดีในทุกเรื่อง แต่จะว่าไปแล้วก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแต่ต้องเคร่งครัดมากขึ้น และดูแลตัวเองให้ดีกว่าสมัยเมื่อยังหนุ่มยังแน่นเท่านั้นเอง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่สูบบุหรี่
- ลดปริมาณแอลกอฮอล์ลง
- ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
เรารู้กันดีว่าการรับประทานอาหารนั้นส่งผลต่อสุขภาพมากมาย หากเราเลือกรับประทานอาหารที่มีผัก ผลไม้ โปรตีนที่ดี ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน มีพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ หากเลือกรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลมาก ไขมันสูง ก็อาจไปเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จึงเป็นเรื่องสำคัญและมีผลดีต่อสุขภาพของคนในช่วงอายุ 50 ปี การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคอ้วน และโรคมะเร็งบางชนิดได้ด้วย
อาหารที่ผู้ชายวัย 50 ควรเลือกรับประทานควรจะเป็นผัก ผลไม้ ธัญพืช อาหารไขมันต่ำ เนื้อ ปลา ถั่ว พืชตระกูลถั่ว ไข่ ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของโปรตีนที่ดี ซึ่งโปรตีนมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยส่งเสริมกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ของมัน ของทอด น้ำตาล และเกลือ
การทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายที่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชายวัย 50 กิจกรรมเหล่านี้จะมีส่วนช่วยให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง ส่งเสริมกล้ามเนื้อให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความสมดุลให้กับร่างกายอีกด้วย
ที่สำคัญการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความจำเสื่อมอีกด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมีคำแนะนำว่า ในการออกกำลังกายของผู้ชายวัย 50 นั้น ควรออกกำลังกายความเข้มข้นในระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และควรเลือกออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่นๆ หรือไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกออกกำลังกาย
ที่มา: www.hellokhunmor.com
ภาพ: www.pixabay.com
อ่านเรื่องสัพเพเหระอื่นๆ ได้ที่ เฟซบุ๊ค "เพื่อนอาวุโส"