ลีลาวดี ชื่อนั้นสำคัญไฉน


ลีลาวดี ชื่อนั้นสำคัญไฉน 

ต้นลีลาวดี หรือ ต้นลั่นทม เป็นไม้ดอกสวย กลิ่นหอมที่ทุกวันนี้นิยมปลูกกันมาก ต่างจากสมัยก่อนที่คนโบราณมีความเชื่อว่า ต้นลั่นทมนั้นไม่ควรปลูกในบ้าน ด้วยมีชื่อที่ไปฟ้องกับคำว่า "ระทม" ซึ่งแปลว่า เศร้าโศก ทุกข์ใจ แต่หลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น "ลีลาวดี" ที่ไพเราะยิ่งขึ้น ทำให้ลีลาวดีกลับมาได้รับความนิยม และเป็นตัวเลือกในการนำไปปลูกที่บ้านและจัดสวน 

แต่แท้ที่จริงแล้ว "ลั่นทม" ไม่มีความหมายว่า "ระทม" เหมือที่หลายคนเข้าใจ มีผู้รู้ด้านภาษาไทยได้กล่าวถึงความหมายของลั่นทมไว้ว่า "การละแล้วซึ่งความทุกข์ความโศกเศร้า และมีความสุข" เพราะคำว่า "ลั่น" มีความหมายว่า แตกหัก ละทิ้ง ส่วนคำว่า "ทม" ก็หมายถึงความทุกข์โศก ความเศร้าโศก เสียใจ  

มีบางคนเชื่อว่า เหตุที่คนโบราณตั้งชื่อว่า "ลั่นทม" เพื่อเป็นกุศโลบาย ที่จะไม่ให้มีการปลูกลีลาวดีไว้ที่บ้าน เนื่องจาก ยางต้นลีลาวดีเป็นพิษ ทำให้เกิดผื่นคันตามผิวหนัง ผิวหนังอักเสบบวมแดง หากได้รับเข้าสู่ร่างกายปริมาณมากจะทำให้ถึงกับเสียชีวิตได้ จึงคิดเป็นกุศโลบายหลอกไว้ เพราะดอกลีลาวดีสีสวยและมีกลิ่มหอม หากเด็กๆ ไปเด็ดดอกมาเล่น อาจจะเป็นอันตรายจากยางสีขาวที่เป็นพิษ และต้นลีลาวดีนี้กิ่งยังเปราะและหักง่ายอีกด้วย ส่วนสาเหตุที่ดอกลีลาวดีส่วนใหญ่ปลูกไว้ตามวัด อาจจะเป็นเพราะสรรพคุณหนึ่งของดอกลีลาวดี ที่มีสรรพคุณลดความรู้สึกทางเพศ จึงเหมาะสำหรับนักบวชและผู้ฝึกตน ที่ไม่ต้องการให้กามารมณ์มากวนใจ


บางกระแสก็ว่า "ลั่นทม" มาจากคำว่า "ลั่นธม" โดยเชื่อว่า ลั่นทม เป็นไม้ที่น่าจะนำมาจากเขมรเมื่อคราวสยามไปตีนครธม ได้ชัยชนะ ก็ได้นำต้นไม้นี้เข้ามาปลูก และเรียกชื่อเป็นที่ระลึกว่า "ลั่นธม" โดยที่ "ลั่น" แปลว่ ตี เช่น ลั่นฆ้อง ลั่นกลอง "ธม" หมายถึง "นครธม" แต่ภายหลัง "ลั่นธม" เพี้ยนเป็น "ลั่นทม"

นอกจากชื่อ ลีลาวดี หรือ ลั่นทม แล้ว ลีลาวดียังมีชื่อเรียกอื่นๆ อีก เช่น จำปาหอม ทางเหนือเรียก จำปาลาว อีสานเรียก จำปา ส่วนปักษ์ใต้เรียก จำปาขอม

ส่วนคำว่าลีลาวดีนั้นยังไม่มีนิยาม แต่หากแปลกันตามพจนานุกรมชนิดคำต่อคำ ก็แยกได้เป็น ลีลา กับ วดี โดยคำว่า ลีลา นั้นหมายถึง ท่าทาง ท่าทางอันงาม การเยื้องกราย ส่วน วดี นั้น แปลว่า รั้ว กำแพง หรือใช้เป็นคำต่อท้ายเพื่อแสดงเพศหญิง ดังนั้น ลีลาวดี ถ้าแปลตามความหมายตามอักษรแล้ว ก็คือต้นดอกไม้ที่มีท่วงท่าสวยงามอ่อนช้อย มีหลายคนเข้าใจว่าชื่อ "ลีลาวดี" นั้นเป็นชื่อพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่ เพราะเป็นชื่อพระราชทานจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ลีลาวดีเป็นไม้ยืนต้นในเขตร้อน ที่เห็นทั่ว ๆ ไปมีดอกสีขาว แดง ชมพู เป็นต้นไม้สกุล Plumeria มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ และถูกนำเข้ามาในดินแดนแถบนี้เมื่อประมาณ 500 ปีก่อนโดยนักเดินเรือชาวสเปนหรือโปรตุเกส จึงไม่มีชื่อในภาษาไทย และไม่ปรากฏชื่อในวรรณกรรมโบราณ แหล่งที่มาของคำว่า ลั่นทม เข้าใจว่ามาจากคำว่า "สราญธม"(สะ-ราน-ทม) ในภาษาเขมร ซึ่งแปลว่า "ความรักอันยิ่งใหญ่"

ไม่ว่าจะอย่างไร "ลีลาวดี" ถือเป็นไม้ที่มีประโยชน์มากทีเดียว มีสรรพคุณทางยา สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เกือบทุกส่วน

ใบลีลาวดี ใบลีลาวดีแห้งนำมาชงกับน้ำร้อนดื่ม ช่วยรักษาโรคหืดหอบ หรือจะใช้ใบสดชงกับน้ำร้อน ช่วยรักษาหิด หรือจะนำใบสดมาลนไฟประคบร้อนช่วยแก้อาการปวดบวมได้

เปลือกต้น ช่วยรักษาโรคหนองในแท้ ใช้เปลือกต้นผสมกับน้ำมันมะพร้าว มันเนย และข้าว ทำเป็นยาแก้ท้องเดิน หรือใช้เปลือกต้นผสมกับน้ำมันมะพร้าว มันเนย และข้าว ทำเป็นยาขับปัสสาวะ

เปลีอกราก ช่วยขับลมในกระเพาะ ช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ และใช้เปลือกรากปรุงเป็นยารักษาโรคหนองใน

ดอกลีลาวดี นอกจากกลิ่นหอมของดอกลีลาวดีจะช่วยให้นอนหลับสบายและอารมณ์ดีขึ้นแล้ว เรายังสามารถนำดอกมาตากแห้งแล้วใช้ชงชาดื่ม มีรสชุ่มคอ ช่วยดับกลิ่นปาก แก้อาการไอ ไอเรื้อรัง ไอแห้ง อาการเจ็บคอ ละลายเสมหะ เหมาะกับคนเป็นหวัดบ่อยๆ

หากนำมาผสมกับดอกไม้ชนิดอื่นอย่างจำปา หรือกระดังงา แห้งยังช่วยบำรุงเลือด ลดความเสี่ยงจะเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน รวมทั้งยังช่วยลดน้ำตาลในเลือดอีกด้วย และหากนำมาดอกมาผสมกับยาหรือสมุนไพรชนิดอื่นๆ จะใช้เป็นยาถ่าย ป้องกันโรคริดสีดวงทวารด้วย นอกจากนี้กลิ่นหอมของดอกลีลาวดีซึ่งยังช่วยทำให้รู้สึกอารมณ์ดีตามไปด้วย ยังมีความเชื่อว่ากลิ่นของดอกลีลาวดีจะช่วยลดความรู้สึกทางเพศอีกด้วย

สำหรับเพื่อนอาวุโสที่อยากปลูกต้นลีลาวดี ซึ่งเป็นไม้ที่ปลูกง่าย ปลูกได้ทั้งในกระถางและลงดิน 


การปลูกต้นลีลาวดีในกระถาง ต้นลีลาวดี จะเติบโตอย่างดีต่อวัสดุปลูกที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง และได้รับปุ๋ยเสริมตามความเหมาะสม สัดส่วนการปลูกที่แนะนำโดยทั่วไปคือ ใช้มูลวัวที่ย่อยสลายแล้ว,ใบไม้ผุ และดิน ในอัตราส่วน 2:1:1 แต่วัสดุปลูกที่มีขนาดเล็กละเอียดเมื่อถึงระยะหนึ่งจะอัดตัวแน่นทำให้รากพืชขาดออกซิเจน น้ำขังไม่สามารถระบายได้ ทำให้เกิดโรครากเน่าได้ การให้น้ำควรรดให้ดินเปียกทั่วถึง จนน้ำส่วนเกินถูกระบายออกมาทางรูระบาย สำหรับการรดน้ำนั้น ควรรดวันเว้นวัน 

การปลูกต้นลีลาวดีลงดินในแปลงปลูก การปลูกต้นลีลาวดีต้นหนึ่งต้องใช้พื้นที่ประมาณ 5 ตารางเมตร ซึ่งดินร่วนปนทรายเป็นดินที่เหมาะสมที่สุดในการปลูก ส่วนในดินนั้นควรมีอินทรียวัตถุที่เหมาะสม สามารถดูดความชื้นได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันต้องสามารถระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ในช่วง 6.5-7.5  

การดูแลรักษาต้นลีลาวดี ต้นลีลาวดี สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่กันดาร ดินไม่อุดมสมบูรณ์มากนัก แต่ถ้าต้องการให้ลีลาวดีออกดอกได้ดีควรนำไปปลูกในกระถางและใช้ดินที่เป็นกรดเหมือนกับพืชเขตร้อนทั่วไป ลีลาวดีชอบความชื้นในอากาศสูงและไม่ชอบอยู่ในดินที่มีน้ำท่วมขังหรือมีการรดน้ำบ่อยครั้ง การปลูกควรเน้นการระบายน้ำหรือการยกร่องในแปลงปลูกเป็นหลัก ลีลาวดีเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดในเวลากลางวันอย่างน้อยครึ่งวัน แต่หลายชนิดต้องการแสงแดดเต็มวัน ยกเว้นบางชนิดที่มีดอกสีแดงซึ่งจะชอบการพรางแสงมากกว่า การให้นำ ควรให้น้ำแต่น้อยให้ประมาณสัปดาห์ละครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพความชื้นในอากาศ  ถ้าอากาศร้อนควรให้น้ำมากกว่าปกติ เพื่อรักษาความเขียวของใบ แต่การให้น้ำมากเกินอาจจะส่งผลให้ลีลาวดีไม่ออกดอก 


การให้ปุ๋ย ควรให้ปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสฟอรัสและโปแตสเซียมในอัตราส่วนที่เท่ากัน เนื่องจากต้นลีลาวดี เป็นต้นไม้ที่รูปทรงสวยงาม ถ้าหากให้ไนโตรเจนมากเกินไปจะทำให้ลำต้นสูงชะลูดดูไม่สวยงาม สำหรับธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อลีลาวดีนั้น คือ แมกนีเซียม ทองแดง เหล็ก สังกะสี กำมะถัน และแมงกานีส

ที่มา: www.medthai.com / www.panmai.com / www.myu-nique.com / wikipedia 
ภาพ: www.pixabay.com  

อ่านเรื่องสัพเพเหระอื่นๆ ได้ที่ เฟซบุ๊ค "เพื่อนอาวุโส" https://www.facebook.com/seniorsfriendship